เมื่อ Walk You Home กลายมาเป็น French Version

วันที่ 10 ธันวาคม วันรัฐธรรมนูญ นี่ก็อยู่ห้อง ไม่ได้ออกไปไหน แต่ทว่ามีนัด เพราะไปดูหนังเรื่อง “ไอฟาย แต๊งกิ้ว เลิ้ฟยู” รอบคณะ ดังนั้น ตอน 1 ทุ่ม ถูกจองคิวไว้แล้ว ก็โอเค เข้าไปดูกับเพื่อนๆ พี่ๆ กัน

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ตัว film แต่มันอยู่ที่เพลงภาษาอังกฤษในฉากความหวานของยิมและติวเตอร์เพลง
ก็คือเพลงนี้

เพลงนี้ ถ้าหากเราฟังเฉยๆ เราอาจจะยังไม่เข้าใจ objective ของเพลงนี้ แต่ถ้าหากว่าเราลองไปฟังในขณะที่ดูฉากนี้อยู่ละก็ เราจะ get ได้อย่างง่ายดาย ก็คือจบ ฟังไปเรื่อยๆ ติดหู ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ใน iTunes ได้อย่างข้ามวันข้ามคืน ตัวภาพยนตร์เองก็ทะลุ 100 ล้านไปแล้ว เตรียมฉลอง สองร้อย สามร้อย ก็ว่ากันไป

แต่ด้วยความที่ว่าเมื่อวานนั้นแหละ ว่างกลับมาจากฟิตเนส ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี นั่งเล่น internet ไป ฟังเพลง Walk You Home เนี่ยแหละ พอผ่านไป 15 นาทีหลังเพลงจบ เพลงนี้ในเวอร์ชั่นภาษาฝรั่งเศสมันก็ออกมาทันที ได้ใจความดังนี้

Cette nuit,
(คืนนี้)
Seulement nous deux
(มีเพียงแค่เราสองคน)
Nous oublions le monde pour un peu
(เรามาลืมโลกไปสักพัก)
Ouvre ton coeur et aussi tes yeux
(แล้วลองเปิดหัวใจและเปิดตาของคุณดู)
Je suis ici devant toi
(คุณจะเห็นว่าผมอยู่ตรงข้างหน้าคุณ)

Et toi, très jolie dans ta peau
(คุณดูสวยมากในชุดนี้)
Même si je suis pas très beau
(แม้ว่าผมจะดูไม่ดีเอาซะเลย)
Je fais du mieux pour que tu m’aimes
(แต่ผมก็จะทำให้ดีที่สุดเพื่อจะชนะใจคุณ)
Puis-je te ramener, chez toi?
(ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านได้ไหม)

Dis-moi comment tu te sens?
(บอกผมได้ไหมว่าคุณรู้สึกอย่างไร)
Je sais au fond que c’est l’amour
(เพราะผมรู้อยู่แก่ใจว่ามันคือความรัก)
Je te promets que je t’aime pour toujours
(ผมนสัญญาว่าผมจะรักคุณตลอดไป)
Ô ma cherie, Puis-je te ramener chez toi?
(ที่รัก ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านได้ไหม)

Avant la matinée,
(ก่อนที่รุ่งเช้า)
et le soleil lève.
(และดวงอาทิตย์จะขึ้น)
Je vais rentrer à la réalité,
(ผมจะต้องกลับไปสู่ในโลกความเป็นจริง)
et toi, retourne à ta vie.
(และคุณเองก็จะต้องกลับไปในชีวิตของคุณซะที)
Dis-moi que tu m’aimes bien, ma cherie.
(บอกผมทีเถอะว่าคุณก็รักผมเหมือนกัน)

Dis-moi comment tu te sens?
(บอกผมได้ไหมว่าคุณรู้สึกอย่างไร)
Je sais au fond que c’est l’amour
(เพราะผมรู้อยู่แก่ใจว่ามันคือความรัก)
Je te promets que je t’aime pour toujours
(ผมนสัญญาว่าผมจะรักคุณตลอดไป)
Ô ma cherie, Puis-je te ramener chez toi?
(ที่รัก ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านได้ไหม)

Bien que je sois pas à toi, je t’aime bien, ma cherie.
(แม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นของคุณ ผมก็ยังคงจะรักคุณ ที่รัก)

เนื้อเพลงก็คล้ายๆเวอร์ชั่นต้นฉบับนั่นแหละ เปลี่ยนบางคำบางประโยคนิดหน่อยให้ดูสวย ตรง pattern ของเพลงเท่านั้น พอได้ลองร้องกับตัว BGM แล้ว โอเคใช้ได้เลยว่ะ เดี๋ยวค่อยทำ ขี้เกียจอยู่

เย็นนี้กินอะไรดีน้า

โจม

ใส่ความเห็น